บังคับใช้กฎเหล็กห้ามดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่รถทุกชนิดรวมในพื้นที่โรงงาน
จากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนกฎหมายตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ทั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ 1.การห้ามขายหรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานซึ่งประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน หลังจากลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาคือวันที่ 7 สิงหาคม 2555 และ 2.เรื่องการห้ามดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในทางสาธารณะขณะขับขี่หรือโดยสารอยู่บนรถทุกประเภท โดยจะมีผลบังคับใช้ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือบังคับใช้วันที่ 8 สิงหาคม 2555 นายจะเด็จ เชาว์นวิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เห็นความสำคัญนำมาสู่การแก้ปัญหาที่มาจากเครื่อง ดื่มแอลกอฮอล์โดยทำกฎหมายให้เป็นจริง เครือข่ายฯเชื่อว่าจะช่วยลดสถิติการเสียชีวิต พิการ บาดเจ็บ ในทุกช่วงโดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ในอีกไม่กี่เดือนนี้เพราะที่ผ่านมามีผู้เสีย ชีวิตสูงเฉลี่ยวันละ 60-66 ราย ส่วนวันธรรมดาจะมีประมาณ 30 ราย รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายแสนบาทต่อปี โดยที่บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย และที่สำคัญมักพบว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มต้องมาตกเป็นเหยื่อจนกลายเป็นคนพิการ ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้ หวังว่ากฎหมายนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเสี่ยงของคนไทยและประสิทธิภาพในการผลิตของผู้ใช้แรงงานนายจ้างได้ "เราผลักดันเรื่องนี้นานกว่า 3 ปี มาสำเร็จในรัฐบาลนี้แต่แม้จะมีกฎหมายนี้ แล้ว การบังคับใช้ก็ต้องจริงจังและเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดจุดอ่อน ซึ่งสามารถพิสูจน์ผลงาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี ทางเครือข่ายยังหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการใหม่ๆ เพิ่มเติมอีก เพื่อลดปัญหา สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน" นายจะเด็จ ย้ำทิ้งท้าย ทาง นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)กล่าวว่า ต้องขอบคุณและสนับสนุนการทำหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้เพราะกฎหมาย ดังกล่าว ถือเป็นช่องทางในการเข้าถึงและจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยเป็นเกราะปกป้องคนที่ไม่ได้ดื่ม โดยที่ผ่านมาจะเห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สร้างความสูญเสียเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ ซึ่งกฎหมายนี้ จะเป็นสิ่งจำเป็นสามารถนำมาตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาได้เป็นรูปธรรมแต่ถ้าจะให้ ได้ผลยิ่งขึ้นต้องมีมาตรการเสริมเรื่องการจำกัดการซื้อ การออกใบอนุญาตขายร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมายนี้ออกมาแล้ว สิ่งที่ต้องรีบทำคือการสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ให้ กว้างขวางที่สุดเพื่อรับมือกับช่วงปีใหม่ที่จะมาถึง (แนวหน้า, 9-8-2555)
|